กลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ "โต้ง รมดำ" ถูกทหารตำรวจฝ่ายปกครองที่ฉะเชิงเทราบุกจับ หลังทำการเปิดซื้อขายอาวุธสงครามในโลกโซเชียล สามารถยึดของกลางเป็นปืน 8 กระบอก ระเบิดมือ 1 ลูก ลูกเกลี้ยง 2 ลูก พบก่อนหน้านี้พึ่งขายหัวจรวดอาร์พีจีไปอีก 2 ลูก เพื่อนบ้านผวาหนัก บอกไม่รู้เลยว่าข้างบ้านจะเป็นเหมือนคลังแสง
วันนี้ (14 ธ.ค.58) เมื่อเวลา 11.00 น. ชุดปราบปรามพิเศษ กอ.รมน.จังหวัดฉะเชิงเทรา พ.อ.สุรินทร์ เจริญชีพ หน.ชุดปฏิบัติการพิเศษจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกับ พ.ต.อ.เกรียงไกร บุญซ้อน รองผบก.ภ.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.ไชยพศ พ่วงแพ หน.ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดฯ และนายจรัล หร่ายมณี ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง นำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 15/163 หมู่บ้านกรุงไทย ซอย 2 หมู่ 2 ต.บางขวัญ อ.เมืองฉะเชิงเทรา
พบนายขวัญชัย หรือโต้ง สุขสำราญ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/5/1 ถนนศรีโสธรตัดใหม่ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา อยู่กับภรรยาวัย 21 ปี และลูกชายวัย 1 ขวบ ตรวจค้นในบ้านพบอาวุธปืนขนาด.38 ขนาด.45 และขนาด 9 มม. รวม 8 กระบอก ระเบิดมือสภาพพร้อมใช้งาน 1 ลูก กระสุนขนาดต่างๆ กว่า 100 นัด และเครื่องมืออุปกรณ์ที่เกี่ยวกับอาวุธปืนจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีกล่องพัสดุไปรษณีย์ และรถกระบะ เชฟโรเลต สีดำ ทะเบียน กจ 2707 ปราจีนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อายัดทั้งหมดไว้ตรวจสอบ
พ.อ.สุรินทร์ เจริญชีพ หน.ชุดปฏิบัติการพิเศษจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้วางแผนเฝ้าติดตามพฤติกรรมนายขวัญชัย หรือโต้ง มาประมาณ 2 เดือน หลังมีสายข่าวแจ้งว่านายโต้งมีพฤติกรรมค้าอาวุธปืนและอาวุธสงครามทางโซเชียล (เฟซบุ๊ก) ถือเป็นพ่อค้าคนสำคัญที่คอยจัดหาอาวุธปืนให้กับลูกค้า พร้อมรับจ้างล้างปืน ซ่อมปืน และรมดำให้กับลูกค้าในกลุ่ม
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบทางเฟชบุ๊ก พบว่านายโต้ง เพิ่งขายหัวจรวดอาร์พีจีจำนวน 2 ลูก และระเบิดมือ 2 ลูกให้กับลูกค้าไปเมื่อวานนี้ (13 ธ.ค.58) ซึ่งเจ้าตัวยังไม่ยอมบอกว่าส่งไปให้ใครและอยู่ที่ไหน แต่นายโต้งสารภาพว่าได้รับซื้อขายอาวุธปืนและอาวุธสงครามทางเฟชบุ๊กจริง โดยวิธีการส่งของการจะใช้แผ่นฟอยล์กันความร้อนห่อสินค้าแล้วใส่กล่องพัสดุ ซึ่งต้องห่อให้หนาป้องกันการกระแทก และสามารถหลบเครื่องสแกนได้ตลอด โดยจะใช้วิธีนี้ทุกครั้งเพื่อป้องกันการตรวจพบ ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี ที่เปิดซื้อขาย

นายโต้ง สารภาพด้วยว่า เฟชบุ๊กที่เปิดในตอนแรก ระบุว่า รับจ้างรมดำ และเริ่มขยายกิจการ โดยมีกลุ่มเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ แต่ละคนจะมีการทำหน้าที่จัดหาอาวุธปืน ระเบิด อาวุธสงคราม ส่งมาให้หลังจากมีการสั่งซื้อจากลูกค้า การสื่อสารมีการติดต่อผ่านทางแอพส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีการจัดหา ปืนกล เอ็ม 16 อาก้า และหัวจรวดอาร์พีจีอยู่บ่อยครั้ง มีเครือข่ายวิ่งหาของและส่งทางไปรษณีย์มาให้ตลอด ส่วนกำไรจะได้ครั้งละ 1,000-2,000 บาท รวมแล้วเดือนหนึ่งมีรายได้หลายหมื่นบาท ซึ่งการส่งของจะไม่มีการส่งมาที่บ้านหลังนี้ ที่เช่าไว้เพื่อทำการรมดำ และเก็บอาวุธปืน ระเบิด อาวุธสงคราม หากลูกค้าส่งของมาจะให้ส่งไปที่บ้านหลังอื่นเพื่อความปลอดภัยในการรับสินค้า
ทางด้าน พ.ต.อ.เกรียงไกร บุญซ้อน รอง ผบก.ภ.ฉะเชิงเทรา เผยว่า ตอนนี้ได้เร่งสนธิกำลังกับทหารลงพื้นที่เพื่อค้นหาหลักฐานของกลุ่มเครือข่าย ในการจัดหาอาวุธปืน โดยเข้าค้นบ้านของนายโต้งอีก 2 หลังที่อยู่ใน จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมมอบหมายให้ พ.ต.อ.ธรรมนูญ มั่นคง ผู้กำกับการสืบสวน ภ.ฉะเชิงเทรา เร่งติดตามหัวจรวดอาร์พีจีและระเบิดมือ รวมถึงอาวุธปืน อาวุธสงครามที่มีการซื้อข่ายก่อนหน้านี้กลับมาให้เร็วที่สุด เบื้องต้นจากการตรวจสอบปืนทั้ง 8 กระบอกที่ยึดได้ พบว่าไม่มีหมายเลขทะเบียนทุกกระบอก จึงต้องตรวจสอบหาที่มาของปืนต่อไป รวมทั้งจะสอบสวนลูกค้าที่ส่งปืนมาให้นายโต้งรมดำด้วย
ด้านพ.ต.อ.เกรียงไกร ได้กล่าวว่า "ชาวบ้านที่อยู่ภายในหมู่บ้านก็ยังงงว่า ทำไมถึงนำอาวุธร้ายแรงมาเก็บไว้ในหมู่บ้านที่มีคนอาศัยอยู่จำนวนมากได้ เพราะหากเกิดระเบิดขึ้นมา จะทำให้มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตแน่นอน"
ที่มา : http://www.siamupdate.com/news-179439