ด่วนรวบไอ้วิท ชุกโดน หัวหน้าแก๊งโจ๋โหด สารภาพว่าแบบนี้ และฝากถึงลูกน้องทุกคน!?

ไอ้วิท ชุกโดน หัวหน้าแก๊งโจ๋โหด ดอดมอบตัว สารภาพหนีไปก็ไม่มีประโยชน์ วอนสมุนเข้ามอบตัวก่อนจะสาย
เมื่อเวลา 140.00 น.วันนี้ 10 ธ.ค.58 ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการชั้น 2 กองบังคับบับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรมบุตร ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชวลิต สุขสุวรรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พิสุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงส์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สมศักดิ์ สุวรรณฉิม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร รอง ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.7 กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร ร.9 พัน 1 กรมทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ และเจ้าหน้าที่ นปพ.ภ.จว.กาญจนบุรี
แถลงข่าวการเข้ามอบตัวของนายพงศ์วิทย์ เทพกาวีระ หรือวิท ชุกโดน หัวหน้าแก๊งชุกโดน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 268 หมู่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มจ.851/2558 ลงวันที่ 6 ธ.ค.58 ซึ่งเป็น 1 ใน 6 คนร้ายที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายกฤษดา หรือเอิร์ต อ่อนน้อม อายุ 19 ปี เสียชีวิต และนายพีระพงษ์ หรือนิก เรืองจันทร์ อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 กล่าวว่า นายพงศ์วิทย์ หรือวิท ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยให้ไปรับตัวที่สถานที่แห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี หลังก่อเหตุอาวุธปืนลูกซอง 5 นัดที่พบในคลิปที่นายนายชัยอนุวัต หรือต้น รอดภัย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/8 หมู่ 8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นผู้ถือ ได้นำไปซุกซ่อนไว้บนต้นไทร กลางป่าละเมาะในพื้นที่ หมู่ 8 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งผู้ต้องหาจำได้อย่างแม่นยำว่านำไปซ่อนเอาไว้ที่ไหน และหลังจากแถลงข่าว จะให้เจ้าหน้าที่คุมตัวไปเอาของกลาง
ด้านนายพงศ์วิทย์ เทพกาวีระ หรือวิท ชุกโดน ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนว่า สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุ เนื่องจากคืนวันนั้นพวกตนไปนั่งกินเหล้าอยู่ที่ร้านอาราเบียน และพบกลุ่มวัยรุ่นเตาปูนคู่อรินั่งอยู่โต๊ะฝั่งตรงกันข้ามประมาณ 6-7 คน ซึ่งก็นั่งกันตามปกติ และต่อมาเริ่มมีการเขม่นกันขึ้น จากนั้นวัยรุ่นชื่อเอิร์ตที่ใส่เสื้อสีเขียวเดินออกไปนอกร้าน ไปตามพวกเด็กเตาปูนชื่อเพชรมา แต่ไม่ยอมเข้าไปในร้าน ได้แต่ยืนชะเง้อมองที่หน้าประตูร้าน จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นเตาปูนก็เช็กบิลแล้วเดินออกจากร้าน ซึ่งพวกตนก็เช็กบิลแล้วก็เดินตามไป
เมื่อออกไปหน้าร้านก็พบว่ากลุ่มวัยรุ่นเตาปูนที่ชื่อเพชรนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์อยู่ จำนวน 2 คน ส่วนนายเอิร์ตยืนอยู่กับผู้หญิง 1 คน เมื่อพวกตนมองไปก็เห็นว่ากลุ่มวัยรุ่นที่นั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์กำลังโทรศัพท์อยู่ พวกตนจึงเดินข้ามไปเอารถกระบะและรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วขับยูเทิร์นรถกลับมาหากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว จากนั้นจึงเดินลงมาจากรถ ซึ่งตนได้เดินไปถามกลุ่มวันรุ่นว่าเป็นเด็กที่ไหน ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นเด็กเตาปูน เที่ยวอยู่กับคนชื่อเพชร จากนั้นพวกตนก็รุมต่อยและทำร้ายทันที ตามที่ภาพวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้
เมื่อถามว่าเคยมีปัญหาส่วนตัวกับนายกฤษดาหรือเอิร์ต ผู้ตายมาก่อนหรือไม่ นายวิท ตอบอย่างหน้าตาเฉยว่า ไม่เคย ที่พวกผมถูกทำร้ายเด็กเตาปูนก็เหมารวมว่าเป็นเด็กชุกโดนเหมือนกัน เมื่อหลายปีก่อนเด็กเตาปูนเคยใช้อาวุธปืนไล่ยิงเด็กชุกโดนโดยไม่สนใจว่าเป็นใครเหมารวมทั้งหมด
สำหรับเรื่องการท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจลงในเฟซบุ๊ก นั้นไม่จริง เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นเฟซบุ๊กปลอม ที่ตนรู้ว่าเป็นเฟซปลอมเพราะตนกับนายนิตินัย หรือมอส กำลังหลบหนีไปอยู่ที่ภูเขาแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลลาดหญ้าด้วยกันตลอดมา แต่อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ตนขอให้เพื่อนที่กำลังหลบหนีอีก 3 คนขอให้รีบเข้ามามอบตัว เพราะขืนยังหลบหนีไปก็คงจะไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง อยากฝากขอโทษไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย ตนรู้สึกเสียใจจริง การรุมทำร้ายในวันนั้นตนไม่คิดว่าจะเอาให้ถึงตาย” นายพงศ์วิทย์ เผย
ที่มา : http://www.siamupdate.com/news-179336